งานวิจัยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง
จัดทำโดย
นางสาวจีระวรรณ ประติกานัง รหัส 5305110005
นิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
มหาวิทยาลัยเวสเทริ์น กาญจนบุรี
งานวิจัยเกี่ยวข้องกับเรื่อง
โรคหลอดเลือดสมอง
การค้นคว้างานวิจัย บทความวิชาการ
บทความวิจัยที่เกี่ยวข้อง เรื่องโรคหลอดเลือดสมองสามารถสรุปได้ดังนี้
1. งานวิจัยจำนวน 3 เรื่อง
2.
บทความวิชาการ….. เรื่อง
3.
บทความงานวิจัย 1 จำนวนเรื่อง
1. ประเด็นเรื่องการวิจัยเกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2 มีจำนวน เรื่องที่กล่าวมี
1.1 เรื่องการศึกษาผลการใช้ทางคลินิกของ CEREBRAL ANEURYSM CLIP (http://scholar.google.co.th/schola .สิทธิพร บุณยนิตย์, พ.บ.,1 นรินทร์ สิริกุลรัตน์, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2545)
1.2
เรื่องประสิทธิภาพของการใช้แนวทางปฏิบัติสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง(http://scholar.google.co.th/schola.มรุต พนธารา, พ.บ.กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสุโขทัย . 2553
ผู้เขียนสามารถสรุปประเด็นด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากงานวิจัยและบทความได้ดังนี้
วัตถุประสงค์สำคัญสำหรับการผ่าตัดรักษาหลอดเลือดแดงโป่งพองในสมองก็คือ
การป้องกันการตกเลือดจากหลอดเลือดแดงที่โป่งพองในสมองแตกซํ้าอีก ก่อนปี พ.ศ.
2493 ศัลยแพทย์ทำ การรักษาหลอดเลือดแดงโป่งพองในสมองด้วยวิธีการผูกมัดอย่างถาวรหรือใช้คีมหนีบโลหแบบดัดได้เพื่อหนีบรัด
ต่อมา Schwartzออกแบบคีมหนีบแบบไขว้ขาเพื่อหนีบหลอดเลือดแบบชั่วคราวในปี
พ.ศ. 2495 Mayfieldกับ Kees ได้ดัดแปลงคีมหนีบนี้ให้มีขนาดเล็กลงและนำ มาใช้หนีบถาวรหลอดเลือดแดงโป่งพองในสมอง(1)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 McFaddenดัดแปลงให้คีมหนีบเป็นรูปแอลฟาวงแหวนคู่ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ประสาทศัลยแพทย์นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน(2)
ในช่วง พ.ศ. 2493ถึง
2513 บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์โดยทั่วไปนิยมทำ คีมหนีบจากโลหะผสมเหล็กกล้าไร้สนิม(3-5)
ปัจจุบันคีมหนีบส่วนมากทำ จากโลหะผสมโคบอลต์ในขณะที่คีมหนีบโลหะผสมไทเทเนยี
มเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากเข้ากันได้อย่างดีกับคลื่แม่เหล็กไฟฟ้า
magneticresonance imaging แต่ยังคงมีราคาแพงมาก
คีมหนีบ “สิทธิพร”
คือคีมหนีบหลอดเลือดคีมหนีบ “สิทธิพร” เป็นคีมหนีบเหล็กกล้าไร้สนิมทางการแพทย์สำ หรับใช้รักษาหลอดเลือดแดงโป่งพองในสมอง
ซึ่งผู้วิจัยผลิตขึ้นเองในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว ทางห้องปฏิบัติการ
ในสัตว์ทดลองและทางคลินิก พบว่าคีมหนีบสิทธิพรมีคุณสมบัติพื้นฐานถูกต้องครบถ้วนตามมาตรฐานทางการแพทย์และสามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพปราศจากโรคแทรกซ้อน
อีกทั้งมีราคาถูก เหมาะสมสำ หรับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในประเทศไทย
2. ประเด็นเรื่อง
การให้ความรู้ต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
2.1
เรื่องการปรับตัวต่อการเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง(http://scholar.google.co.th/schola.วราลักษณ์ ทองใบปราสาท. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
2553
)
เมื่อเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สูญเสียการความรู้สึกของร่างกายเสียไปเป็นโรคของเวรกรรม
และเป็นโรคที่ต้องการผู้ดูแลโดยมีผลกระทบต่อการเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ส่งผลให้การทำหน้าที่ของร่างกายลดลง มีความผิดปกติ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว การรับประทานอาหารด้านการเคี้ยว
การรับความรู้สึก และการรับรู้ มีการสูญเสียภาพลักษณ์ เป็นความรู้สึกเกี่ยวข้องกับ
ความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดที่บุคคลมีต่อสภาพร่างกาย เช่นขนาด รูปร่าง ท่าทาง ของตนเองที่เปลี่ยนแปลงไป
การทำหน้าที่ในครอบครัวลดลงเพราะก่อนป่วย สามารถประกอบอาชีพหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้
เมื่อเจ็บป่วยไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังเดิมจึงประสบปัญหาตามมา และมีความต้องการพึ่งพาระหว่างกัน
การเจ็บป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย มีความพิการหลงเหลืออยู่
ผู้ป่วยจึงต้องการการพึ่งพาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง และการพึ่งพาระหว่างกันนี้ผู้ป่วยเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ
ส่วนวิธีการปรับตัวต่อกาเจ็บป่วของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง คือ วิธีการปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสภาพร่างกาย
ในการทำหน้าที่ของร่างกาย เป็นการเรียนรู้ การฝึกช่วยเหลือตนเองในการ
ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และการฟื้นฟู การดำรงชีวิตอย่างประหยัดเพื่อลดภาระให้ครอบครัว
เป็นการปรับตัวด้านภาระหน้าที่การแสดงบทบาทหน้าที่ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามบริบทของสิ่งแวดล้อม และพยายามช่วยตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาคนในครอบครัว เป็นการปรับตัวด้าน
การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การร้องขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ทำเองไม่ได้ และผู้ดูแล หรือญาติสามารถตอบสนองได้ทั้งนี้มีผลการปรับตัวต่อการเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
คือยอมรับสภาพการเจ็บป่วยได้มีการ ปรับตัวเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และไม่ยอมรับสภาพการเจ็บป่วย ในการปรับตัว ด้านภาพลักษณ์
เป็นการปรับตัวไม่มีประสิทธิภาพ
ซึ่งไม่สามารถทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย 4) ปัจจัยที่ส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการปรับตัวต่อการเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ปัจจัยที่ส่งเสริมในการปรับตัว คือการดูแลเอาใจใส่ ความรักความเอื้ออาทรจาก ครอบครัว
ญาติและผู้ดูแล ความหวังของผู้ป่วย ที่ทำให้มีความสามารถช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวันได้
และปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการปรับตัหมายถึงประสบการณ์ในด้านลบเกี่ยวกับโรค ที่มีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำใจยอมรับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถทำกิจกรรมได้เหมือนเดิม
ทั้งนี้สามารถสรุปประสบการณ์การปรับตัวต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง